(9 สิงหาคม 2560) ณ ห้องโถง ชั้น 1 อาคารพระจอมเกล้า กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) ร่วมกับ สภาสมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (สสวทท.) จัดกิจกรรมเสวนา “คุยกัน..ฉันวิทย์” เพื่อสร้างความรู้ความตระหนักด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ในหัวข้อ “แผ่นน้ำแข็งขั้วโลกละลายผลกระทบที่คุณอาจต้องเจอ” โดยมี นายณัชนพงศ์ วชิรวงศ์บุรี ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นประธาน ร่วมกับผู้ร่วมเสวนา ได้แก่ ผศ.ดร.อนุกูล บูรณประทีปรัตน์ อาจารย์ประจำภาควิชาวาริชศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เสวนาหัวข้อ “สมุทรศาสตร์กับการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก” และรองศาสตราจารย์ ดร. สุชนา ชวนิชย์อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เสวนาหัวข้อ “ประสบการณ์ที่ได้รับกับความเปลี่ยนแปลงที่เจอ เมื่อน้ำแข็งขั้วโลกละลาย”ดำเนินการเสวนาโดย นายคุปตนันต์ พิสิฐมหันต์ ผู้ดำเนินรายการสถานีโทรทัศน์ไทยรัฐทีวี ช่อง 32
ผศ.ดร.อนุกูล บูรณประทีปรัตน์เปิดเผยว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกอันเนื่องมาจากกิจกรรมของมนุษย์ ก่อให้เกิดผลกระทบในระดับโลกและระดับภูมิภาค ทั้งทางกายภาพและชีวภาพ น้ำในโลกมาจากไหน ดาวดวงอื่นมีน้ำอยู่หรือเปล่า เราจำเป็นต้องทราบว่าโลกหรือดวงดาวต่าง ๆ เกิดขึ้นได้อย่างไร ดาวที่อยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มาก ๆ เช่น ดาวพุธ มีองค์ประกอบ เป็นสารโลหะ เช่น เหล็กดาวที่อยู่ห่างออกมาจะมีองค์ประกอบเป็นพวกสาร แมกนีเซียม, ซิลิคอน, น้ำ และ ออกซิเจน เพิ่มเข้ามาดาวเคราะห์ที่อยู่ห่างออกไปจากดวงอาทิตย์มาก ๆ จะพบ องค์ประกอบเป็นพวกสารมีเทน และ แอมโมเนีย ทำไมโลกจึงเป็นโลกอย่างที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน ปัจจัยที่เหมาะสม ทำให้โลกยังคงมีน้ำอยู่จนทุกวันนี้
นอกจากนี้ ระดับน้ำทะเลที่ขึ้นสูงยังก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบนิเวศชายฝั่ง เช่น การสูญเสียพื้นที่ป่าชายเลน ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำนานาชนิด การรุกล้ำของน้ำเค็มเข้าสู่แหล่งน้ำจืดที่จะส่งผลเสียต่อการเกษตร และ การที่น้ำทะเลหนุนจะยังทำให้เกิดน้ำล้นตลิ่งและท่วมบ้านเรือนอีกด้วย ปัจจุบันน้ำทะเลที่อุ่นขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะยังคงส่งผลกระทบก่อให้เกิดการละลายของน้ำแข็งทั่วโลก
ด้าน รองศาสตราจารย์ ดร. สุชนา ชวนิชย์ กล่าวว่า จากการศึกษาเกี่ยวกับผลกระทบของภาวะโลกร้อนที่มีต่อระบบนิเวศทางทะเลที่ขั้วโลกใต้ในช่วง 13 ปีที่ผ่านมา ภายใต้โครงการวิจัยขั้วโลกตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และภายใต้โครงการของ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.) ร่วมกับเครือข่ายนักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่นและจีนในการไปร่วมสำรวจขั้วโลกใต้ที่ติดตามสถานการณ์ภาวะโลกร้อนอย่างใกล้ชิด โดยตนเองได้มีโอกาสไปที่ขั้วโลกใต้ 2 ครั้ง ละที่ขั้วโลกเหนืออีก 1 ครั้ง พบว่า ในขณะนี้ที่ขั้วโลกเหนือน้ำแข็งได้ละลายไปมากเนื่องจากภาวะโลกร้อน ส่วนระบบนิเวศทางทะเลที่ขั้วโลกใต้เริ่มได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อนมากขึ้น ไม่เพียงแต่น้ำแข็งที่ขั้วโลกใต้จะละลายมากขึ้น แต่สัตว์พวกเพนกวิน แมวน้ำ และปลาทะเล ยังได้รับผลกระทบจากการที่น้ำแข็งละลายด้วย ทีมวิจัยพบว่า การที่อุณหภูมิในน้ำทะเลสูงขึ้นและน้ำแข็งที่ขั้วโลกละลายมากขึ้น มีผลกระทบต่อเพนกวิน ทำให้อัตราการรอดของลูกเพนกวินลดลงกว่าเดิมมาก โดยอัตราการรอดของลูกเพนกวินในปัจจุบันน้อยกว่า 10% ขณะเดียวกัน พบว่ามีพยาธิบนตัวปลาและในกระเพาะลำไส้ของปลาขั้วโลกมากขึ้น แสดงให้เห็นว่ามีเชื้อโรคสูงขึ้น เมื่ออุณหภูมิน้ำทะเลสูงขึ้นกว่าปกติมากเท่าไร โอกาสที่จะมีพยาธิหรือเชื้อโรคบนตัวสัตว์ทะเลจะเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น จากการเปรียบเทียบพบว่าปลามากกว่า 80% มีพยาธิ และจำนวนพยาธิเพิ่มขึ้นทุกปี จากในอดีตที่ไม่พบพยาธิ โดยปริมาณพยาธิที่เพิ่มขึ้นประมาณ 15% ต่อปี และอาจส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมการว่ายน้ำและการกินอาหารของปลา และอาจทำให้ปลาตายในที่สุด
นอกจากนี้ จากการสำรวจของประเทศไทยโดยนักวิจัยจากจุฬาฯ ที่ได้มีโอกาสไปสำรวจที่ขั้วโลกใต้ร่วมกับเครือข่ายนักวิทยาศาสตร์ของประเทศจีน และญี่ปุ่น ในระยะเวลา 13 ปี ชี้ให้เห็นว่าทวีปแอนตาร์กติก ซึ่งเป็นทวีปที่ไม่มีมนุษย์อาศัยอยู่อย่างถาวร และเป็นทวีปที่บริสุทธิ์ที่สุด ขณะนี้กำลังได้รับผลกระทบจากกิจกรรมของมนุษย์ที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ดังนั้นจึงถึงเวลาแล้วที่คนไทยและคนทั่วโลกควรเริ่มที่จะช่วยกันลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดการใช้ถุงพลาสติก ลดการใช้กล่องโฟม เพื่อลดผลกระทบที่จะไปทำให้ระบบนิเวศทั้งที่ทวีปแอนตาร์กติก และที่อื่นๆได้รับผลกระทบมากกว่านี้
การที่น้ำแข็งที่ขั้วโลกละลาย ผลกระทบจะไม่เกิดขึ้นแค่ที่ขั้วโลก แต่อาจะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศของปะการังในบ้านเราได้ เมื่อน้ำแข็งละลายระดับน้ำทะเลก็จะสูงขึ้น จึงทำให้ปะการังอาจจะต้องอยู่ในน้ำทะเลที่ลึกขึ้น ซึ่งอาจจะส่งผลต่อการอยู่รอด และการตายของระบบนิเวศปะการังในบ้านเราได้
เขียนข่าวโดย : นางสาวศิริวรรณ หมินหมัน
ภาพข่าวและวีดีโอ : นายกฤช วงษ์จันทร์, นายภูมินทร์ ปั้นเล็ก, นายสุเมธ บุญเอื้อ
กลุ่มงานประชาสัมพันธ์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
โทร. 02 333 3728 – 3732 โทรสาร 02 333 3834
เว็บไซต์นี้ เป็นเว็บไซต์หน่วยงานของรัฐในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จัดตั้งขึ้นเพื่อมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการ สป.อว. เพื่อเข้าสู่มาตรฐานการบริหารจัดการภาครัฐ ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์ของสำนักงานปลัดกระทรวง โปรดแจ้งให้ทราบเพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป