13 สิงหาคม 2568 ดร.วันนี นนท์ศิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ผตร.อว.) และคณะ ตรวจราชการโครงการตามประเด็นการตรวจแบบบูรณาการในประเด็น                      การขับเคลื่อนนโยบาย Soft Power โครงการ “จานใหม่..หัวใจจวบ” การพัฒนานวัตกรรมการท่องเที่ยววิถีประมงพื้นบ้านเชิงสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน ด้วยแนวคิดเศรษฐกิจ BCG และ SDG เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันบนฐานอัตลักษณ์ทุนทางวัฒนธรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ของ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ (มทร.รัตนโกสินทร์) ผ่านระบบออนไลน์ (ZOOM) โดยมี ผศ.นภาพร นาคทิม รองอธิการบดี ประจำวิทยาเขตวังไกลกังวล และ รศ.วิวรณ์ วงศ์อรุณ ผู้รับผิดชอบโครงการ รายงานผลการดำเนินงานโครงการดังกล่าว

               ในการนี้ ผตร.อว. ได้รับฟังสรุปผลการดำเนินงานของโครงการฯ โดยโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาชุมชนประมงในท้องถิ่นให้เป็นชุมชนการท่องเที่ยววิถีประมงพื้นบ้านที่มีความรับผิดชอบต่อทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม พัฒนาหลักสูตรท้องถิ่นออนไลน์การท่องเที่ยววิถีประมงพื้นบ้านเชิงสร้างสรรค์อย่างยั่งยืนจากภูมิปัญญาท้องถิ่นตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน SDGs สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ชุมชนด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์อาหารทะเลจากวัสดุเหลือใช้หรือทรัพยากรในชุมชนด้วยแนวคิดเศรษฐกิจ BCG และการส่งเสริมการตลาดดิจิทัลในรูปแบบสื่อประชาสัมพันธ์ออนไลน์ รวมถึงจัดงานอาหารทะเลเมนูสร้างสรรค์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์และการท่องเที่ยววิถีประมงพื้นบ้านเชิงสร้างสรรค์อย่างยั่งยืนและแสดงศักยภาพการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวในท้องถิ่นโดยมีการดำเนินงานในทุกอำเภอของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

               ในโอกาสนี้ ผตร.อว. ได้กล่าวขอบคุณ มทร.รัตนโกสินทร์ ที่ได้ให้ข้อมูลการดำเนินโครงการดังกล่าว พร้อมนี้ได้มีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกำกับ ติดตาม เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อให้เป็นไปตามแผนงานของโครงการ และควรวางแผนและขับเคลื่อนการดำเนินโครงการให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการคัดเลือกกลุ่มเป้าหมายชุมชนที่เข้าร่วมโครงการ ควรมีการกำหนดหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนเพื่อให้ได้    กลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพ โดยอาจจะประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ของจังหวัด เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมร่วมและเกิดการบูรณาการการทำงานร่วมกัน ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืนต่อไป

ข้อมูลข่าวโดย : กลุ่มตรวจราชการ สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

        8 สิงหาคม 2568 ดร.วันนี นนท์ศิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ผตร.อว.) และคณะ ลงพื้นที่ตรวจราชการโครงการตามนโยบายเร่งด่วนและนโยบายสำคัญของรัฐบาลในประเด็นการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดและบุหรี่ไฟฟ้า “โครงการสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันยาเสพติดในสถาบันอุดมศึกษา ภายใต้โครงการพัฒนาทักษะกำลังคนของประเทศ“ ของสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.) โดยมี รศ.ดร.ดวงพร ภู่ผะกา อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ พร้อมคณาจารย์ นางสาวขวัญเรือน พุทธรัตน์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ ผู้แทนกองส่งเสริมและพัฒนากำลังคน (กสค.สป.อว) และ ผศ.ดร.ปริญญา นาคปฐม รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานิสิตและศิษย์เก่าสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยบูรพา ให้การต้อนรับ และร่วมรายงานผลการดำเนินโครงการในภาพรวม
ของ สป.อว. และเครือข่ายเพื่อพัฒนาอุดมศึกษาภาคตะวันออก ในฐานะสถาบันแม่ข่าย ณ ห้องเจ้าเสวย ชั้น 4 อาคารราชนครินทร์ มรภ.ราชนครินทร์ จังหวัดฉะเชิงเทรา

          ในการนี้ ผตร.อว. ได้รับฟังรายงานการดำเนินโครงการในส่วนของ กสค.สป.อว. ผ่านเครือข่ายเพื่อการพัฒนาอุดมศึกษา 9 เครือข่าย ในการบูรณาการแผนงานโดยโครงการร่วมดำเนินงานระหว่างหน่วยงานในการจัดกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ กิจกรรมนอกหลักสูตร กิจกรรมจิตสาธารณะ หรือกิจกรรมทางเลือกต่างๆ ที่ส่งเสริมให้เยาวชน
ได้แสดงความสามารถและทำตามความคิดสร้างสรรค์ อันเป็นการส่งเสริมการสร้างคุณค่าในตนเองและใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และเบี่ยงเบนออกจากวงจรยาเสพติด โดยในปี 2568 ได้สนับสนุนสถาบันอุดมศึกษาดำเนินโครงการสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันยาเสพติดในสถาบันอุดมศึกษา จำนวน 36 แห่ง มีนักศึกษาเข้าร่วมโครงการ จำนวน 18,950 คน และมีสถาบันอุดมศึกษาเข้าร่วมการประกวดแข่งขัน TO BE NUMBER ONE ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี 15 แห่ง เข้ารอบการแข่งขันระดับประเทศในส่วนของ ม.บูรพาในฐานะแม่ข่าย เครือข่ายเพื่อการพัฒนาอุดมศึกษาภาคตะวันออก มีสถาบันอุดมศึกษา 8 แห่ง ได้แก่ มรภ.ราชนครินทร์ วชช.ตราด มรภ.รำไพพรรณี มจพ. วิทยาเขตปราจีนบุรี วชช.สระแก้ว มทร.ตะวันออก ม.บูรพา และสถาบันวิทยสิริเมธี โดยในภาพรวมได้รับอนุมัติโครงการ จำนวน 8 โครงการ ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินโครงการ 3 โครงการ สำหรับ มรภ.ราชนครินทร์ยึดหลักความยั่งยืนในการดำเนินกิจกรรมแก้ไขปัญหายาเสพติด เช่น กิจกรรม “วิศวกรสังคม” จูงใจให้นักศึกษาร่วมกลุ่มทำกิจกรรมโดยใช้วิธีแลกแต้ม (คะแนน) นอกจากนี้ยังเป็นตัวแทนจังหวัดส่งนักศึกษาเข้าร่วมการแข่งขันโครงการ TO BE NUMBER ONE ทั้งในระดับอาชีวศึกษาและอุดมศึกษา สุ่มตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดและบุหรี่ไฟฟ้า โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัดร่วมดำเนินการ นอกจากนี้ได้ขอรับทุนสนับสนุนจากแหล่งทุนอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น ทุนสำนักงานกองทุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ภายใต้โครงการ Happy University ซึ่งมีการวัดผลด้านปัญหายาเสพติดเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดผลความสุข 9 ด้าน พร้อมทั้งขยายความร่วมมือด้านการแก้ไขปัญหายาเสพติดกับหน่วยงานต่างๆ เช่น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ป.ภ.) กรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) หรือ กศน. เดิม

          ในโอกาสนี้ ผตร.อว. ได้กล่าวขอบคุณ มรภ.ราชนครินทร์ ม.บูรพา และ กสค.สป.อว. ที่ให้ข้อมูลการดำเนินโครงการฯ และได้มีข้อเสนอแนะเพิ่มเติม โดยขอให้ กสค.สปอว.อว. จัดทำแผนปฏิบัติการ ทั้งในระดับของกระทรวงและเครือข่ายสถาบันอุดมศึกษา โดยถอดแผนระดับชาติ ว่าด้วยการป้องกัน ปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติด ประจำปี ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เพื่อใช้ในการวางแผนและบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงาน สถาบันอุดมศึกษาเครือข่าย รวมถึงหน่วยงานอื่นๆ ในพื้นที่ นอกจากนี้ ควรจัดทำฐานข้อมูลการดำเนินโครงการเพื่อใช้ในการสนับสนุนด้านงบประมาณ รวมถึงการแสวงหาแหล่งทุนอื่นในการดำเนินการ เช่น กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น (กปท.)  หรือของบบูรณาการเพิ่มเติมจาก ป.ป.ส. โดยอาจจัดทำ MOU ในภาพรวมของเครือข่ายเพื่อการพัฒนาอุดมศึกษา ซึ่งจะทำให้การขับเคลื่อนงานด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดและบุหรีไฟฟ้า เป็นไปอย่างต่อเนื่อง ตามนโยบายของรัฐบาล

          หลังจากนั้น ผตร.อว. และคณะ ได้เยี่ยมชมห้องงานบริการและสวัสดิการนักศึกษา ซึ่งประกอบไปด้วยงานบริการห้องพยาบาล ศูนย์ให้คำปรึกษาแก่นักศึกษาและชมรม TO BE NUMBER ONE RRU รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการให้บริการของมหาวิทยาลัย อาทิ สถิติและความถี่ในการให้บริการด้านต่างๆ แก่นักศึกษา และเข้าชมศูนย์ออกกำลังกาย (RRU Fitness Center) และพื้นที่นันทนาการและมุมพักผ่อนหย่อนใจโดยรอบ

                                                              ข้อมูลข่าวโดย : กลุ่มตรวจราชการ สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

                7 สิงหาคม 2568 ดร.วันนี นนท์ศิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ผตร.อว.) และคณะ ลงพื้นที่ตรวจราชการโครงการตามประเด็นยุทธศาสตร์กระทรวง โครงการ           การพัฒนาเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi) ของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (พว.) โดยมี ดร.วุฒิ ด่านกิตติกุล รองผู้อำนวยการ เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ           ภาคตะวันออก และคณะ ให้การต้อนรับและรายงานผลการดำเนินการ ณ สำนักงานใหญ่ EECi เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก จังหวัดระยอง

                ในการนี้ ผตร.อว. ได้รับฟังสรุปผลการดำเนินงานของโครงการในภาพรวม โดยโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแหล่งพัฒนาคลัสเตอร์นวัตกรรมรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ นำเทคโนโลยีไปสู่การใช้ประโยชน์อย่างรวดเร็วและลดความเสี่ยงในการลงทุน การขยายผลต่อยอดไปสู่การมีส่วนร่วมของประชาชน อีกทั้งเป็นแหล่งถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับภาคอุตสาหกรรมและเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาผู้ให้บริการฐานนวัตกรรม (Innovation Service Provider) และผู้ผสานรวมระบบ (System Integrator) โดยใช้กลไกสนับสนุนของรัฐ ส่งเสริมให้เกิดวิสาหกิจเริ่มต้น (Startup) รวมถึงสร้างความเข้มแข็งให้ผู้ให้บริการทางด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อเป็นพื้นฐานรองรับการเติบโตของระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกในอนาคต ตลอดจนส่งเสริมเกษตรกรรุ่นใหม่ให้มีความรู้ ความสามารถในการปรับใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ให้เกิดการขยายผลในพื้นที่ชุมชนและพื้นที่อื่น โดยมีการดำเนินงานผ่าน 4 กิจกรรมย่อย ได้แก่ 1) โครงการพัฒนากระบวนการผลิตต้นพันธุ์ปลอดโรคและการผลิตสมุนไพรพรีเมี่ยม ระดับการผลิตเชิงพาณิชย์ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ 2) โครงการพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูง ที่มีศักยภาพในการผลิตเชิงพาณิชย์ระดับ Pre-commercial 3) โครงการยกระดับความสามารถทางเทคโนโลยีของชุมชนและเกษตรกร ด้วยเทคโนโลยีเกษตรสมัยใหม่และเกษตรอัจฉริยะ และ 4) โครงการยกระดับความสามารถผู้ประกอบการสู่อุตสาหกรรม 4.0 ทั้งนี้ ในภาพรวมโครงการมีผลการดำเนินงานเป็นไปตามแผนที่กำหนด

                ในโอกาสนี้ ผตร.อว. ได้กล่าวขอบคุณหน่วยงานที่ได้ให้ข้อมูล และเห็นว่าโครงการดังกล่าวเป็นโครงการสำคัญตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ         โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พว. เป็นหน่วยงานที่นำงานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาช่วยให้ภาคการเกษตรและภาคอุตสาหกรรมสามารถดำเนินการให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและเป็นประโยชน์ต่อสังคม สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ และช่วยยกระดับชุมชนให้เกิดความยั่งยืน พร้อมนี้ได้มีข้อเสนอแนะให้ พว. ขยายกลุ่มเป้าหมายในการผลิตต้นพันธุ์ปลอดโรคและการผลิตสมุนไพรพรีเมียมให้ครอบคลุมกลุ่มพืชเศรษฐกิจอื่นๆ รวมไปถึงการพิจารณาการใช้พลังงานทางเลือก เช่น Solar Cell ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดและหมุนเวียนมาช่วยในการดำเนินงานภาคอุตสาหกรรม และสนับสนุนงานวิจัยเพื่อต่อยอดการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีให้ตรงกับความต้องการของ
ผู้ประกอบการในการขยายพันธุ์พืชเศรษฐกิจชนิดอื่นในเชิงพาณิชย์ที่จะนำไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับชุมชนและสังคม ตลอดจนการพัฒนาหลักสูตรอบรมผู้ประกอบการ ให้เป็นหลักสูตรแบบประกาศนียบัตร หรือ Non Degree ให้เป็นไปตามมาตรฐานหลักสูตรอุดมศึกษา โดยการบูรณาการความร่วมมือกับสถาบันอุดมศึกษาในพื้นที่ เพื่อเชื่อมโยงกับระบบคลังหน่วยกิตและเชื่อมโยงกับมาตรฐานคุณวุฒิวิชาชีพ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้เรียน และเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการจัดการศึกษาตลอดชีวิต

                จากนั้น ได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมหน่วยงานและการพัฒนาในด้านต่างๆ ภายใต้บริบทการพัฒนา EECi ได้แก่ ศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน มุ่งเน้นการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมไทยก้าวสู่อุตสาหกรรม 4.0 ห้องปฏิบัติการเซลล์เทคโนโลยีด้านพืชและเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ (Plant Cell Technology and Tissue Culture Laboratory) มุ่งเน้นการพัฒนาและวิจัยเทคโนโลยีด้านการเกษตรโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืชและการใช้เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งห้องทดลองคลังสินค้าอัจฉริยะ และทดสอบมอเตอร์ โดยมีเป้าหมายที่จัดตั้งขึ้นเพื่อใช้ในการศึกษาและทดลองเทคโนโลยีที่มีส่วนช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในคลังสินค้า และโรงเรือนปลูกพืชอัจฉริยะ ซึ่งเป็นการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้ในการเกษตร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงในการผลิตพืช อาทิ ฟ้าทะลายโจร กะเพรา และบัวบก เป็นต้น

ข้อมูลข่าวโดย : กลุ่มตรวจราชการ สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

       7 สิงหาคม 2568 ดร.วันนี นนท์ศิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ผตร.อว.) และคณะ  ลงพื้นที่ตรวจราชการโครงการตามประเด็นยุทธศาสตร์กระทรวง โครงการสร้างสนามทดสอบรถอัตโนมัติ CAV Proving Ground ระยะที่ 2 ของกรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) โดยมีนายกนิษฐ์ ตะปะสา ผู้อำนวยการสถาบันห้องปฏิบัติการอ้างอิงแห่งชาติ นายกรธรรม สถิรกุล นักวิทยาศาสตร์เชี่ยวชาญ และคณะ ให้การต้อนรับและรายงานผลการดำเนินการ ณ อาคารเวลคัม เซ็นเตอร์ เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi) จังหวัดระยอง
       ในการนี้ ผตร.อว. ได้รับฟังสรุปผลการดำเนินงานของโครงการในภาพรวม โดยโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดตั้งสนามทดสอบ Connected and Autonomous Vehicle (CAV) proving ground ในพื้นที่ EECi ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานด้านคุณภาพ (NQI) ในอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคตของประเทศไทย จัดเตรียมความพร้อมบุคลากรสำหรับการให้บริการทดสอบยานยนต์อัตโนมัติ รวมถึงการยกระดับคุณภาพของยานยนต์แห่งอนาคตที่พัฒนาและผลิตในประเทศให้ได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล อีกทั้งใช้เป็นสนามทดสอบระบบรถอัตโนมัติระดับ SAE AV Level 3-5 โดยในปี พ.ศ. 2568 มีการขยายพื้นที่สนามทดสอบเพื่อสร้างรั้ว บ่อหน่วงน้ำ และทางระบายน้ำป้องกันน้ำหลาก รวมถึงการเสริมสร้างศักยภาพและเตรียมความพร้อมสนามทดสอบยานยนต์แบบเชื่อมต่อและขับขี่อัตโนมัติให้สามารถเปิดบริการได้อย่างเต็มรูปแบบในปี พ.ศ. 2569 ทั้งนี้ ในภาพรวมโครงการมีผลการดำเนินงานเป็นไปตามแผนที่กำหนด

       ในโอกาสนี้ ผตร.อว. ได้กล่าวขอบคุณ วศ. ที่ได้ให้ข้อมูล และได้มีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสื่อสารเพื่อประชาสัมพันธ์เชิงรุกในการสร้างการรับรู้โครงการดังกล่าว และบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สนามทดสอบรถอัตโนมัติเป็นที่รู้จักมากขึ้น รวมถึงการจัดทำกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องและทำความร่วมมือกับหน่วยงานด้านการวิจัยและพัฒนาในการพัฒนาระบบการวางมาตรฐานการรับรองยานยนต์อัตโนมัติให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคตของประเทศต่อไป จากนั้น ได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมสนามทดสอบรถอัตโนมัติ CAV Proving Ground ระยะที่ 2 และศูนย์ทดสอบยานยนต์เชื่อมต่อและขับขี่อัตโนมัติ (T-CAVs) รวมถึงร่วมทดสอบระบบรถยนต์อัตโนมัติซึ่งขับขี่โดยใช้ระบบอัตโนมัติสั่งการ สามารถหยุดรถได้ในระยะปลอดภัยโดยใช้เซนเซอร์ตรวจจับระยะห่างจากรถยนต์คันหน้า โดย วศ. ได้พัฒนาเทคโนโลยีนวัตกรรมยานยนต์อัตโนมัติ ซึ่งเป็นหนึ่งในงานวิจัยนวัตกรรมยานยนต์อย่างต่อเนื่อง

ข้อมูลข่าวโดย : กลุ่มตรวจราชการ สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม